นิทาน
เรื่อง ชาวนากับนกพิราบ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
มีชาวนาคนหนึ่งนำข้าวสารมาตากแดดไว้นอกบ้านในตอนเช้าเวลาสาย แต่ทุกครั้งที่นำข้าวสารมาตากแดดจะมีฝูงนกพิราบบินมาจิกกินทุกครั้งจนชาวนาทนไม่ไหว
วันหนึ่งชาวนาจึงดักจับนกพิราบโดยเตรียมตาข่ายแล้วเข้าไปดักรอในบ้านบริเวณหน้าต่างจุดที่ตนตากข้าวสารไว้พอดี
เมื่อฝูงนกพิราบบินมาถึงก็พากันจิกกินข้าวสารของชาวนา ชาวนาจึงโยนตาข่ายที่เตรียมไว้ใส่ฝูงนกพิราบฝูงนกพิราบจึงติดอยู่ในตาข่าย
ชาวนาจึงนำเอาฝูงนกพิราบไปทิ้งไว้ทางทิศตะวันออกเพื่อหวังจะให้ความร้อนแสงอาทิตย์แผดเผาฝูงนกพิราบให้ตายไป
ฝูงนกพิราบตกใจกลัวแบบสุดขีดและร้อนทรมานจากแสงอาทิตย์
จ่าฝูงนกพิราบหายอมแพ้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่พร้อมกับพูดให้กำลังใจนกพิราบตัวอื่น
ฝูงนกพิราบจึงแก้ปัญหาโดยใช้ลำคอยกหัวมุมตาข่ายขึ้นเพื่อให้เกิดเป็นช่วงว่างแล้วให้นกพิราบตัวอื่นที่ติดอยู่ในตาข่ายบินออกไป
ฝูงนกพิราบทำผลัดเวียนกันไปเรื่อยๆจนนกพิราบทุกตัวที่ติดอยู่ในตาข่ายบินออกจนหมด
ทุกตัวต่างพากันดีใจที่หลุดออกมาจากตาข่ายได้
ฝูงนกพิราบจึงบินกลับไปยังถิ่นฐานของตนและก็ไม่กล้าบินมาจิกกินข้าวสารของชาวนาอีกเลย
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ความสามัคคี
ย่อมทำให้สามารถผ่านพ้นปัญหาที่ตนกำลังเผชิญอยู่ได้
เมื่อเราเคยได้รับบทลงโทษอะไรเราก็ไม่ควรกลับไปทำสิ่งนั้นซ้ำอีก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น